
ในยุคที่คนทำงานอิสระหรือฟรีแลนซ์มีมากขึ้นเรื่อย ๆ การอยากมีคอนโดเป็นของตัวเองไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป แต่สิ่งที่หลายคนสงสัยก็คือ “ฟรีแลนซ์อย่างเราจะกู้ผ่านไหม?” คำตอบคือ กู้ได้แน่นอน แต่อาจต้องวางแผนและเตรียมเอกสารให้รอบคอบกว่าคนที่มีเงินเดือนประจำหน่อย
บทความนี้จะพาไปดูว่า ฟรีแลนซ์แบบเรา ๆ ต้องเตรียมตัวยังไง เอกสารอะไรที่ควรมี และมีเทคนิคไหนที่ช่วยให้ธนาคารเชื่อใจเรามากขึ้น มาดูกันเลย!
ทำไมฟรีแลนซ์ถึงกู้คอนโดยากกว่าพนักงานประจำ?
เวลาธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ เขาจะดูเรื่อง “ความมั่นคงของรายได้” เป็นหลัก ซึ่งคนที่มีเงินเดือนประจำจะได้เปรียบ เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่ามีเงินเข้าแน่นอนทุกเดือน
แต่สำหรับฟรีแลนซ์ รายได้อาจขึ้น ๆ ลง ๆ และไม่มีสลิปเงินเดือนแบบทางการ ธนาคารเลยต้องดูจากพฤติกรรมการเงินในบัญชี และเอกสารต่าง ๆ เพื่อประเมินว่าเรามีความสามารถในการผ่อนจริงหรือไม่
เอกสารที่ฟรีแลนซ์ต้องเตรียมก่อนยื่นกู้คอนโด
หากคุณเป็นฟรีแลนซ์และอยากยื่นกู้คอนโด เอกสารคือเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ธนาคารมองเห็นภาพความสามารถทางการเงินของคุณอย่างชัดเจน เอกสารที่ควรเตรียมให้ครบ ได้แก่:
- รายการเดินบัญชี (Statement) ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน หรือมากกว่านั้น ถ้ามีรายได้หลายช่องทางให้รวมไว้บัญชีเดียวจะดีที่สุด
- สำเนาทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัวตน
- สัญญาว่าจ้าง หรือใบแจ้งหนี้จากลูกค้า (Invoice) ใช้แสดงให้เห็นว่ามีรายได้จากการทำงานจริง
- เอกสารเสียภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด. 90 หรือ 94) เป็นการยืนยันว่าเรามีรายได้สม่ำเสมอและอยู่ในระบบภาษี
- ทะเบียนพาณิชย์ หรือหนังสือจดทะเบียนบริษัท (ถ้ามี) จะเพิ่มความน่าเชื่อถือได้มากขึ้น
- หนังสือรับรองรายได้ ที่เขียนเอง พร้อมแนบหลักฐานประกอบ เช่น รายการสรุปรายรับต่อเดือนหรือปี
ทิปเล็ก ๆ: ใช้บัญชีเดียวในการรับรายได้ทั้งหมด และพยายามให้มีรายได้เข้าออกอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน จะช่วยให้ธนาคารประเมินความมั่นคงของคุณได้ง่ายขึ้นมาก
นอกจากนี้ ควรแนบแผนการเงินคร่าว ๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถจัดการรายได้ รายจ่าย และภาระหนี้ในอนาคตได้ดี ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อได้มากขึ้น
ทำยังไงให้ธนาคารเชื่อว่าเรากู้ไหว?
การทำให้ธนาคาร “เชื่อมั่น” ว่าคุณสามารถผ่อนคอนโดได้จริง เป็นหัวใจสำคัญในการยื่นกู้ นอกจากเอกสารหลักฐานแล้ว ยังมีสิ่งที่สามารถเสริมภาพลักษณ์ทางการเงินของคุณได้ เช่น:
- แยกบัญชีรับรายได้กับบัญชีใช้จ่ายส่วนตัว ทำให้เห็นความชัดเจนของเงินเข้าออกและการจัดการเงิน
- รายได้สม่ำเสมอทุกเดือน แม้จำนวนจะไม่สูงมาก แต่ธนาคารจะให้ความสำคัญกับความสม่ำเสมอมากกว่าความหวือหวา
- มีวินัยทางการเงิน เช่น ใช้บัตรเครดิตอย่างระมัดระวัง ไม่ใช้เต็มวงเงิน และจ่ายตรงเวลาทุกเดือน
- ยื่นภาษีทุกปี แม้จะดูเหมือนเสียเปรียบเพราะต้องจ่ายภาษี แต่จริง ๆ แล้วสิ่งนี้เป็นข้อได้เปรียบในการกู้ เพราะช่วยเพิ่มเครดิตและความโปร่งใส
- มีเงินเก็บหรือเงินดาวน์สำรอง อย่างน้อย 10–20% ของราคาคอนโด เป็นสัญญาณบวกที่แสดงว่าคุณมีการวางแผนทางการเงิน
หากมีภาระหนี้ เช่น รถ หรือสินเชื่ออื่น ๆ พยายามลดภาระหนี้ให้เหลือน้อยที่สุดก่อนยื่นกู้ เพราะธนาคารจะพิจารณาจากอัตราส่วนรายได้ต่อหนี้ (Debt to Income Ratio) ด้วยเช่นกัน
ธนาคารไหนเป็นมิตรกับฟรีแลนซ์มากกว่ากัน?
แม้เกณฑ์ของธนาคารจะคล้ายกัน แต่บางแห่งมีแนวทางที่ยืดหยุ่นและเข้าใจอาชีพอิสระมากกว่า โดยเฉพาะในปี 2025 ที่หลายธนาคารมีแคมเปญเจาะกลุ่มฟรีแลนซ์โดยเฉพาะ ธนาคารที่น่าสนใจ ได้แก่:
- SCB (ธนาคารไทยพาณิชย์): มีแคมเปญสนับสนุนคนทำงานอิสระ พร้อมทีมสินเชื่อเฉพาะด้าน
- KBank (กสิกรไทย): พิจารณาจาก Statement และประวัติภาษีอย่างเป็นระบบ
- TTB (ทีเอ็มบีธนชาต): มีสินเชื่อบ้านแบบยืดหยุ่น ให้โอกาสผู้มีรายได้ไม่แน่นอนแต่สม่ำเสมอ
คำแนะนำ: อย่าลังเลที่จะเข้าพบเจ้าหน้าที่สินเชื่อโดยตรง พูดคุยอย่างตรงไปตรงมา พร้อมนำเอกสารที่เตรียมไว้ให้ช่วยประเมินเบื้องต้น จะได้รู้ว่าเราควรปรับอะไรบ้าง หรือควรเริ่มยื่นจากธนาคารไหนก่อน
บางครั้งการเลือกธนาคารที่เคยมีความสัมพันธ์ทางการเงินกับเราอยู่แล้ว เช่น มีบัญชีเงินฝากหรือใช้บริการบ่อย จะช่วยให้การอนุมัติรวดเร็วขึ้น เพราะธนาคารมีข้อมูลของเราอยู่แล้วในระบบ
ถ้าโดนปฏิเสธ ต้องทำยังไงต่อ?
ถ้ายื่นกู้แล้วธนาคารปฏิเสธ อย่าเพิ่งท้อ ลองพิจารณาทางเลือกต่อไปนี้:
- กู้ร่วมกับคนใกล้ตัว เช่น แฟน พ่อแม่ หรือพี่น้องที่มีรายได้ประจำ จะเพิ่มความน่าเชื่อถือและลดความเสี่ยงให้กับธนาคาร
- ปรับลดงบประมาณคอนโด เลือกซื้อในช่วงราคาที่เหมาะกับรายได้ เพื่อให้ภาระผ่อนต่อเดือนน้อยลง
- พักหนี้เล็กน้อย แล้วกลับมายื่นใหม่หลังจากจัดระเบียบการเงินดีขึ้น เช่น ปรับ Statement หรือเพิ่มเงินเก็บ
สิ่งสำคัญคือต้องไม่ยอมแพ้ เพราะแม้จะโดนปฏิเสธรอบแรก แต่การกลับมาพร้อมกว่าเดิมก็ช่วยเพิ่มโอกาสได้เสมอ
ฟรีแลนซ์ก็มีบ้านได้ ถ้าเตรียมตัวให้ดี
สำหรับฟรีแลนซ์ การกู้คอนโดอาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนพนักงานประจำ แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป ถ้าเราวางแผนดี มีวินัยทางการเงิน และเตรียมเอกสารให้ครบ โอกาสกู้ผ่านก็มีสูงไม่แพ้ใคร
ปี 2025 นี้ ธนาคารหลายที่เริ่มเข้าใจวิถีชีวิตของคนทำงานยุคใหม่มากขึ้น และเริ่มให้ความสำคัญกับ “ความสม่ำเสมอของรายได้” แทนการมองแค่ “เงินเดือน” อย่างเดียว
เพราะถ้าคุณมีเป้าหมายชัดเจน วางแผนเป็น และพร้อมโชว์ความมั่นคงทางการเงินให้เห็น คอนโดในฝันก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมจริง ๆ